Swift กับ Array 2 มิติ แบบมี key

ตัวอย่างก่อนหน้านี้ผมพาเขียนแบบ Array 2D และ for loop อ่านค่า คราวนี้เรามาลองดูอะไรกันอีกนิดนึง นั่นคือการสร้าง Array 2D แบบมี key ด้วย เอ้ะ แล้วคราวนี้จะอ่านค่าได้ยังไง

มาดูกันเลยแบบจะจะ

แล้วก็มาดูผลการทำงานกัน

อยากบอกว่า แม่งเอ้ย เมพสาสส มันสุดยอดไปเลยอะ ง่ายดายขนาดนี้กันเลย กำหนด key ก้ได้ แล้วอ่านค่าส่วนของ value ได้ง่ายมากๆ ด้วย

Swift กับ Array 2 มิติ

ตัวอย่างนี้จะพาทำการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้าง Array 2D หรือ 2 มิตินั่นเอง จากนั้นก็ทำการ loop อ่านค่าในแต่ละช่องมาแสดงผล มาดูโค้ดกันครับ ผมขอเริ่มที่ Array แบบง่ายๆ กันดังนี้

ผลการทำงานของโค้ดนี้

มันเป็นอะไรที่ง่ายดาย และสุดยอดมากจริงๆ ดูรูปแบบก็คล้ายกับ Java Script, PHP เลยครับ เขียนง่ายมาก

Swift การค้นหาคำบางคำ ในกรณี switch case

เรามาดูโค้ดกันเลยครับ รับรองว่าเขียนง่ายมากๆ และเป็นเสน่ห์ของภาษานี้เลย

ไอ้คำว่า hasPrefix ก็คือคำนำหน้าครับ ทีนี้ก็ง่ายขึ้นมากแล้ว สำหรับการค้นหาเงื่อนไขเพื่อให้โปรแกรมทำงาน

Swift กับการใช้งาน Switch Case

นี่เลย สิ่งแรกที่ทำให้ผมน้ำตาไหลได้ มันช่างอลังการงานสร้างจริงๆ ว่าแล้วก็มาดูโค้ดกันเลยดีกว่า จะได้น้ำตาไหลไปด้วยกัน

แค่ได้เห็นมัน ผมก็ถึงกับร้องว่า เชี้ยยยย เมพสาสสสส คราวนี้สบายแล้วเรา ไม่ต้องดักให้ยากอีกต่อไป

Swift กับตรวจสอบค่า nil

คงเป็นอีกตัวอย่างที่ทำเอาหลายคนงง ว่ามันเขียนง่ายขนาดนี้เลยเหรอ โดยปกติ เวลาเราประกาศตัวแปรขึ้นมา โดยใช้ var เราก็จะกำหนดค่าไปเลยว่าเป็นเท่าไหร่ แต่ในการเขียนโปรแกรมจริงๆ นั้น หลายครั้ง เราก็ประกาศและบอก type ไว้ก่อน แต่ยังไม่กำหนดค่า

ลองมาดูโค้ดกันครับ

การกำหนดตัวแปรแบบ ยังไม่กำหนดค่าจะต้องใช้ ? ตามหลังชนิดไว้ก่อน แล้วกำหนดเป็น nil ครับ เมื่อต้องการตรวจสอบค่า ก็ใช้ if เช็คธรรมดา ก็จะรู้ได้เลยว่า ค่าเป็น nil หรือเปล่า

ปล. nil ก็เหมือนกับ null ในภาษาโปรแกรมอื่นๆ ครับ

Swift กับการใช้งาน if else if

เป็นอีกตัวอย่างที่ง่ายๆ เช่นเคย เปรียบเทียบเงื่อนไขเพื่อค้นหาค่าที่ใกล้ที่สุด โดยใช้ if else if ไล่หา ลองดูโค้ดกันครับ

ง่ายๆ ใช่ไหมครับ เขียนเหมือนกับภาษาโปรแกรมอื่นๆ เพียงแต่ ไม่ต้องมี ( ) ครอบ ทำให้โค้ดสั้นกว่าเดิมมาก

Swift การใช้งาน if else

ตัวอย่างนี้ก็จะเป็นตัวอย่างแบบง่ายๆ อีกครับ ต่อจากคราวก่อน อันนี้เป็นเรื่องการตรวจสอบเงื่อนไข 2 ทางเลือก คือไม่ if ก็ต้อง else ลองมาดูโค้ดกัน

สังเกตที่ Console Output ครับ ผลการทำงานก็คือ จะทำงานที่ else เพราะว่า x มันเป็น 10 ไม่ใช่ 8

Swift กับการใช้ if

ตัวอย่างนี้ผมจะพาใช้งาน if ในภาษา Swift แบบง่ายๆ กันครับ

ลองดูโค้ดนี้

รูปแบบง่ายมากครับ ไม่ต้องใช้ () มาครอบเลย เพียงแค่เขียน if ตามด้วยเงื่อนไขทันที

Swift การใช้ Array และอ่านค่าสมาชิก

คงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนอยากให้ผมเขียน แน่นอนครับ สร้าง Array มาแล้วมันก็ต้องเอาสมาชิกในนั้นไปใช้งานใช่มะ ลองมาดูโค้ดกันเลย

ตัวอย่างนี้ผมจะทำการพิมพ์ค่าตัวแปร ออกทาง Console Output นะครับ

คราวนี้ให้นำเมาส์ไปคลิกตรง วงกลม สีขาวๆ

 

จะพบหน้าต่างแสดงรายละเอียดตัวแปรดังนี้

สุดยอดไปเลยครับผม ขออธิบายโค้ดนิดนึงนะครับ เริ่มแรกก็สร้าง Array ขึ้นมา กำหนดเป็นค่าคงที่ก็เลยใช้ let จากนั้นทำการ อ่านค่าด้วย for in ครับ เขียนง่ายมากๆ แล้วก็ทำการ println เพื่อพิมพ์ค่าออกทาง Console

งานนี้ น้ำตาไหลกันเป็นแถบ มันเมพสาสสสส เลยล่ะ

Swift การใช้ Array

ทุกภาษาย่อมมี Array และในภาษานี้ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมากๆ ครับ บอกตรงๆ ว่า เล่นเอาน้ำตาไหลเลย จะง่ายไปไหนฟะ ลองมาดูกันครับ

สุดยอดไปเลยใช่ไหมครับ ใครเคยเขียน Objective-C มาก่อนจะรู้เลย ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สะดวกขึ้น ง่ายขึ้นกว่าเดิมมา สมกับเป็นภาษาใหม่ ที่ออกแบบมาอย่างดี ข้าน้อย ขอคารวะ ด้วยน้ำชา 10 จอก

Swift กับการแทรกตัวแปรลงใน ข้อความ

ลองนึกภาพถ้าเราจะเอาตัวแปรใส่ในข้อความ มันจะยุ่งยากขนาดไหน ยิ่งมีหลายๆ ตัวแปร หรือบางทีมีการคำนวนก่อน ค่อยเอาไปใส่ในนั้น ใครเคยเขียนภาษา Objective-C มาก่อน จะรู้เลยว่า กูปวดหัวแน่ สาสสสส แต่งานนี้ครับไม่ต้องห่วง เขาออกแบบมาง่ายเกิน จนผมน้ำตาไหล

ว่าแล้วก็มาดูกันเลย

แค่ใส่ \() ครอบส่วนที่เป็นตัวแปรไว้ แถมยังทำการคำนวนได้อีก พระเจ้าเหา มันสุดยอดมากๆ แต่เอ้ะ ทำไมการแสดงผลด้านขวามองไม่ค่อยเห็นนะ อ้อ ช่องมันเล็ก แถมยังยึดไม่ได้อีก แต่ไม่เป็นไรครับ มีทางออก เอาเมาส์ไปชี้ มันจะมีรูปดวงตาแห่งเซารอน โผล่มาด้านหลัง ถ้าเจอมันแบบจะจะ ก็กดเลยครับ แล้วจะพบค่าตัวแปร

 

เป็นไงกันบ้างครับ สุดยอดจริงๆ ให้ตายเหอะ พระเจ้าช่วย ผมบอกไว้ก่อนว่าถ้าจะหัดเขียนภาษานี้นะ ให้เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้เลย เพราะจะได้ร้องไห้น้ำตาไหลกันแน่นอน มันง่ายเกิน แถมยังยึดหยุ่นมาก

เดี๋ยวเขียนตามผมไปเรื่อยๆ นะครับ ช่วงหลังจะได้เขียนการสร้าง App บน iPhone และ iPad รวมไปถึง OSX App กันอีก จะได้รู้เลย ว่ามันเจ๋งจริง อะไรจริง

Swift การเชื่อม String เข้ากับ Int

นี่ก็คงเป็นอีกข้อนึงที่นักเขียนโปรแกรมต้องรู้เลยก็ว่าได้ครับ สำหรับภาษานี้ เขาออกแบบมาให้ใช้งานง่ายยังกะเอากล้วยเข้าปากเลยล่ะ มาดูกันดีกว่า

มันง่ายมากๆ ครับ แค่เอา String มาครอบไว้ก็จบละ เท่านี้ก็ทำให้ตัวแปร n กลายเป็นชนิด String และนำไปประกอบใส่กับตัวแปรที่เป็นชนิด String ได้

อะไรจะง่ายขนาดนี้ สุดยอดมากมายเลย

Swift กับการแปลงชนิดตัวแปร

อะนั่นแน่ หลายคนคงอยากรู้สินะว่า ถ้าเรากำหนดตัวแปรขึ้นมา ปกติมันใช้ var แล้วทีนี้ ถ้าจะกำหนดชนิดให้มันเอง จะทำยังไง วิธีการนั้นแสนจะง่ายครับผม มาดูโค้ดกันเลย แบบจะจะ

นี่ล่ะครับ ก็แค่ใส่ : ตามด้วยชนิด จบเลย สบายๆ ง่ายมาก แต่ผมว่านะ เราไม่ต้องบอกมันก็ได้ครับ เพราะมันจะรู้ได้เองตามค่าที่เก็บเข้าไป เพราะเขียนไปก็ปวดหัวเปล่าๆ เด้อ พี่น้อง

Swift กับค่าคงที่ และตัวแปร

หลังจากที่ผมได้เขียนโปรแกรมไปพักนึง ก็เริ่มสนุกว่ามันสร้างตัวแปรได้ง่ายมากๆ ทีนี้ลองมาดูเรื่องค่าคงที่กันบ้าง ค่าคงที่ก็คือ ค่าที่เปลี่ยนไม่ได้ครับ ห้ามเปลี่ยนว่างั้น ฮ่าๆๆ

เขียนโค้ดกันเลย

เห็นไหมครับ ถ้ากำหนด let แปลว่า มันคือค่าคงที่ อย่าไปเปลี่ยนมันครับ ไม่งั้นจะ Error ฮ่าๆๆ เจอเลยแบบจะจะ ขึ้นสีแดงทันที แต่ถ้าตัวแปรธรรมดากก็เปลี่ยนค่าเล่นได้เลย ไม่ว่ากันครับ

เตรียมตำราเรียบร้อย

หลังจากที่ผมได้ทำการอ่านข้อมูลคร่าวๆ ของภาษา Swift ก็เกิดความสนใจ เลยค้นหาตำรา และได้มาเรียบร้อยครับ มาดูกันว่าเป็นยังไง













ภาพที่เห็นนี้คือ หนังสือที่มีให้โหลดฟรีครับ ผมก็โหลดมา ทีนี้เรามาดูข้างในกันดีกว่าว่าเป็นอย่างไร


มันเท่มากจริงๆ ครับ เปิดอ่านผ่าน iBook ซึ่งผมก็ชอบอยู่แล้ว เพราะอ่านง่าย และอ่านได้ทั้งบน MAC, iPhone และ iPad ด้วยครับ เดิมทีพื้นหลังสีขาวนะครับ ผมปรับเป็นสีนี้จะได้ดูสบายตา เรามาดูรายละเอียดสารบัญกันดีกว่า


นี่ครับ เพียบเลย อ่านกันจนกระจ่างเลยทีเดียว ทีแรกผมก็คิดว่าเราจะอ่านเข้าใจเหรอวะ พอได้อ่านและทำตามดู โอ้โห เขาเขียนได้ดีมากๆ ครับ ถือว่ารอบนี้ Apple กวาดนักพัฒนาให้หันมาเขียนภาษานี้ได้เยอะแน่ๆ

เอาล่ะครับ เดี๋ยวผมจะเขียนบทความให้ได้อ่านกันอีก ในตัวอย่างต่อไปก็จะเป็นคิวของเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนโค้ดแล้วล่ะครับ จะได้รู้กันว่าเป็นยังไง